ทำไมต้องเลือก A Plus Nursing Home ศูนย์รับดูแลผู้สูงอายุดูแลคนที่คุณรัก

ความชราและคามเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นอภิมหาเศรษฐีระดับโลกหรือยาจกคนจน ไม่มีใครสามารถปฏิเสธสองสิ่งนี้ได้เลย นอกจากสังคมไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว สถิติหญิงไทยครองตัวเป็นโสดมากขึ้น โดยมีผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ รายงานว่า กลุ่มคน Gen Y หรือผู้ที่เกิดในช่วงปี พ.ศ.2523-2543 (อายุ 22-42 ปี) มีแนวโน้มในการครองความเป็นโสดมากขึ้น มุ่งเน้นการประสบความสำเร็จมากกว่าการมีชีวิตคู่และมีลูก นั่นหมายความว่า คนเหล่านี้มีการวางแผนความพร้อมรับมือสู่วัยชราด้วยตัวคนเดียว เนอร์สซิ่งโฮม เรสซิเดนท์แคร์โฮมต่างๆ กลับเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนกลุ่มนี้ (อ้างอิง https://bit.ly/40eChhW)

สำหรับบ้านพักคนชรา ที่หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 15-20 ปีที่แล้ว ลูกบ้านไหนพาพ่อแม่ไปอยู่บ้านพักคนชรา จะถูกสังคมมองว่าเป็นคนอกตัญญู แต่มาถึงยุคนี้ ที่ต้องยอมรับว่า การดูแลผู้สูงอายุนั้น ต้องใช้เวลามากมายมหาศาล หากจะทำงานไปด้วย และต้องกลับมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านด้วย เห็นจะเป็นเรื่องที่ทั้งเหนื่อยและลำบาก การหาเนอร์สซิ่งโฮมดีๆ สักที่กลายเป็นตัวเลือกของคนในยุคนี้ เพราะเนอร์สซิ่งโฮมในปัจจุบัน มีการพัฒนาทั้งบุคลากรทั้ง Facilities ต่างๆ ที่ดูแล้ว สบายเหมือนอยู่บ้านตัวเอง เรามาดูกันดีกว่าว่า ประเภทของเนอร์สซิ่งโฮมนี้ มีทั้งหมดกี่ประเภท

ที่พักสำหรับผู้อายุมีทั้งหมดกี่่ประเภท

1. Aging in Place
   เป็นรูปแบบการที่ผู้สูงอายุพักอาศัยในบ้านของตัวเอง เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ยังสามารถดูแลตัวเองได้ โดยจ้างผู้ช่วยมาทำงานต่างๆ ทั้งแบบประจำวัน หรือประจำสัปดาห์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าแต่ละคน เช่น จ้างผู้ช่วยมาเพื่อทำความสะอาดบ้าน เตรียมอาหาร และพาไปพบแพทย์ ซึ่งการจ้างผู้ช่วยมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน จะดีต่อสภาพจิตใจของผู้สูงอายุเพราะได้อยู่ใกล้ลูกหลานและที่สำคัญยังอยู่ในบริเวณบ้านของตัวเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้ช่วยมาดูแลไม่สูงมาก
   
   
2. Independent Living
   บ้านพักประเภทนี้ ผู้สูงอายุต้องย้ายเช้าไปอยู่ เช่น บ้านพัก อพาร์ทเม้นท์ คอนโดมิเนียม ที่สร้างขึ้นมาเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ผู้สูงอายุสามารถอยู่อาศัยอย่างอิสระ ไปไหนมาไหนได้ตามความต้องการ และยังมีเพื่อนบ้านที่เป็นกลุ่มคนวัยเดียวกัน ทำให้สามารถช่วยคลายความเหงาได้ การให้บริการของที่พักประเภทนี้ จะมีบริการพื้นฐาน เช่น ทำความสะอาดบ้านหรือห้องพักให้เป็นประจำ เตรียมอาหารครบ 3 มื้อ ดูแลซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นต่างๆ ที่พักประเภทนี้เหมาะกับผู้สูงอายุที่ยังดูแลตัวเองได้ และต้องการมีสังคมเพื่อนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ซึ่งค่าใช้จ่ายของที่พักประเภทนี้ขึ้นอยู่กับความหรูหราของสถานที่ และทำเลที่ตั้ง
   
   
3. Residential Care Homes หรือ Board Care Home
   สำหรับที่พักประเภทนี้ เหมาะกับผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลแต่ไม่ถึงกับต้องดูแลตลอด 24 ชั่วโมง สามารถดูแลตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ที่พักประเภทนี้ให้อิสระกับผู้สูงอายุ แต่จะมีการให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ เช่น จัดเตรียมอาหารให้ทุกมื้อ บริการซักรีด ทำความสะอาด และในผู้สูงอายุบางรายที่ไม่สามารถอาบน้ำเองได้ สามารถใช้บริการของที่พักประเภทนี้ได้ บริการจัดยา มีบริการพาไปพบแพทย์ตามนัด ขนาดที่พักไม่ใหญ่มาก อาจเป็นบ้านที่มีอยู่รวมกัน หรือเป็นอพาร์ทเม้นท์ที่มีจำนวนห้องไม่มาก ค่าใช้จ่ายปานกลาง แล้วแต่ความหรูหราและทำเลที่ตั้ง
   
   
4. Assisted Living Community
   ที่พักประเภทนี้เหมาะกับผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองได้น้อยลง หรือแทบจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย จะมีบริการดูแลตลอด 24 ชั่วโมง มีบริการอาหารครบทุกมื้อ ดูแลเรื่องธุระส่วนตัว อาบน้ำ แต่งตัว รวมไปถึงซักเสื้อผ้า ทำความสะอาด ดูแลเรื่องการจัดยา พาไปพบแพทย์ตามนัด และที่พักประเภทนี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางไว้ให้ผู้สูงอายุได้มาเดินออกกำลังกายหรือทำกิจกรรม และมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
   
   
5. Memory Care
   สำหรับที่พักแบบ Memory Care จะเน้นเรื่องของความปลอดภัย เหมาะกับผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ จะมีบริการให้ความช่วยเหลือและดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และมีค่าใช้จ่ายสูง
   
   
6. Skilled Nursing
   Skilled Nursing เป็นที่พักที่เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านสุขภาพ ไม่สามารถดูแลหรือช่วยเหลือตัวเองได้ ในที่พักจะมีพยาบาลและแพทย์ประจำตลอด 24 ชั่วโมง คอยให้ความช่วยเหลือในระดับสูงทั้งการดูแลและการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น อาหาร การอาบน้ำ การทำความสะอาด การดูแลด้านการแพทย์ และที่พักประเภทนี้มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก
   
   
7. Retirement Community
   เป็นการผสมผสานระหว่าง Independent Living + Skilled Nursing และ Assisted Living Community โดยจะมีการแบ่งโซนที่พักตามความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองของผู้สูงอายุ เช่น โซนผู้สูงอายุที่ยังแข็งแรง ไปจนถึงโซนผู้สูงอายุที่มีอาการเจ็บป่วยและต้องการการดูแลตลอดเวลา ที่พักประเภทนี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางในการทำสันทนาการ ค่าใช้จ่ายสูง มีค่าแรกเข้า และค่ารายเดือน โดยค่าใช้จ่ายจะสูงตามความต้องการในการช่วยเหลือจากผู้ดูแล
   
   

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร

สำหรับผู้ที่ต้องการหาศูนย์ดูแลคนแก่ ก่อนจะตัดสินใจเลือกควรต้องดูอะไรบ้าง ลองดูตามเนื้อหาด้านล่างต่อไปนี้

• บุคลากรมีความเชี่ยวชาญในการดูแลผู้สูงอายุ
  มีการดูแลด้านโภชนาการ ผู้สูงอายุมีความจำเป็นต้องได้รับสารอาหารครบถ้วนในแต่ละวัน และต้องมีความเชี่ยวชาญสิ่งใดที่ควรและไม่ควร
  ให้ผู้สูงอายุรับประทาน
• มีการจัดการด้านสุขอนามัยของผู้สูงอายุ เช่น ที่นอน หมอน เสื้อผ้า
• มีการทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิต การทำกิจกรรมจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพจิตดีขึ้น
• มีความปลอดภัย เช่น มีกล้อง CCTV มีระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ เช่น ระบบป้องกันอัคคีภัย ระบบป้องกันเหตุฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
• มีการดูแลด้านความสะอาด เช่น มีการทำความสะอาดที่อยู่อย่างเป็นประจำ
• มีบริการพาไปพบแพทย์ตามนัด
• ราคาสมเหตุสมผล
  
  สำหรับผู้ที่กำลังมองหาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุศูนย์รับดูแลผู้ป่วย สามารถปรึกษาเราได้ เอ พลัส เนอร์สซิ่งโฮมศูนย์รับดูแลผู้สุงอายุศูนย์รับดูแลผู้ป่วยศูนย์พักฟื้นคนชรา ฯลฯ เรามีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุและคนชรา ในราคาที่เหมาะสม มีให้เลือกใช้บริการนนทบุรี โดยแบ่งการบริการออกเป็น
  
• ด้านการดูแล 
  ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะพักฟื้นตลอด 24 ชั่วโมง โดยทีมงานที่ผ่านการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ
  
• ด้านการรักษา
  บริการซักเสื้อผ้า ทำความสะอาด ที่นอนหมอนมุ้ง และอุปกรณ์ต่างๆ มีการจัดกิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา พาไปทำบุญ ตักบาตร และการเดินเล่นพักผ่อนยามเย็น
  
• ด้านการฟื้นฟู
  ฟื้นฟูหลังจากออกจากโรงพยาบาล ฟื้นฟูหลังการผ่าตัดหรือฟื้นฟูหลังคลอด
  

หากสนใจสามารถเข้ามาดูรายละเอียดหรือปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่
34/7 หมู่ 9 ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120
โทร : 092-656-5650
ออฟฟิศ : 02-010-5788
Line : @aplusnursinghome
อีเมล : aplusnursinghome@gmail.com